K Labs: ส่งเสริมความสามารถพิเศษด้วยการฝึกอบรมและการรับรองของหัวเว่ย

K Labs เชี่ยวชาญในการฝึกอบรมด้านเทคนิคโทรคมนาคมและ ICT โดยมีทั้งหลักสูตรการรับรองผู้จำหน่ายและหลักสูตรที่ไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี สำนักงานใหญ่ของ K Labs อยู่ในประเทศอิตาลี แต่บริษัทให้การฝึกอบรมในประเทศอื่นๆ อีกหลายประเทศ โดยมีหลักสูตรตัวแทน รวมถึงความรู้ในทางทฤษฎีและประสบการณ์ในทางปฏิบัติ แค็ตตาล็อกหลักสูตรของ K Labs มีให้บริการในสี่ภาษาและประกอบด้วยหลักสูตรมากกว่า 90 หลักสูตร โดยมุ่งเน้นไปที่สาขาด้านศูนย์ข้อมูล, การประมวลผลบนคลาวด์, ระบบเครือข่าย IP, การเข้าถึงแบบเคลื่อนที่และแบบตายตัว, 5G, การทดสอบประสิทธิภาพ, การแพร่ภาพมัลติมีเดีย, การรักษาความปลอดภัย ICT, Big Data, IoT, บล็อกเชน และ AI

ลูกค้าของ K Labs ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ให้บริการเครือข่าย ผู้ผลิต ผู้ผสมผสานระบบ องค์กรการเงิน รัฐบาล และบริษัทสาธารณูปโภค

บทสัมภาษณ์ของ Lorenzo Passarini ผู้อำนวยการ K Labs

K Labs มีหลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อการรับรองของหัวเว่ยประเภทต่างๆ ในความคิดเห็นของคุณ เหตุใดวิศวกรควรพิจารณาถึงการขอใบรับรองจากหัวเว่ย

หัวเว่ยเป็นบริษัทด้านเครือข่ายและโทรคมนาคมระดับนานาชาติที่ให้บริการด้านอุปกรณ์และบริการแก่ตลาดทั่วโลก ปัจจุบัน การลงทุนในบริษัทหัวเว่ยไม่ใช่เรื่องท้าทาย แน่นอนว่าตลาด ICT ต้องการวิศวกรที่สามารถสร้างเครือข่ายในอนาคตโดยใช้อุปกรณ์และโซลูชันของหัวเว่ยมากขึ้นเรื่อยๆ

K Labs เป็นองค์กรฝึกอบรมอิสระ คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับการรับรองของหัวเว่ยเมื่อเทียบกับผู้จำหน่ายรายอื่นในแง่ของมูลค่าและคุณภาพ

หัวเว่ยมีทีมงานที่ดูแลด้านการฝึกอบรมและการรับรองที่ทำงานในส่วนกลางและท้องถิ่นโดยเฉพาะ เมื่อผมไปเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ของหัวเว่ยในประเทศจีน ผมประทับใจกับการที่หัวเว่ยคอยดูแลแก้ไขตามคำติชมของพันธมิตรที่ฝึกอบรมเพื่อปรับปรุงคุณภาพของการฝึกอบรมและการรับรองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยเห็นจากผู้จำหน่ายรายอื่นมาก่อน

ในเรื่องคุณภาพ ผมสามารถพูดได้ว่าการขอใบรับรองจากหัวเว่ยไม่ได้หมายถึงแค่การสอบผ่านเท่านั้น หัวเว่ยแนะนำให้ผู้สมัครเข้ารับการฝึกอบรมก่อนเข้าสอบ ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับการรับรองของหัวเว่ย เนื่องจากวิศวกรที่ได้รับการรับรองมีประสบการณ์จริงในการติดตั้ง การกำหนดค่า และการจัดการอุปกรณ์ของหัวเว่ย

เมื่อเปรียบเทียบกับผู้จำหน่ายรายอื่น หัวเว่ยสนับสนุน K Labs ได้ดีกว่าเนื่องจากมีการมอบบัตรกำนัลใบรับรองฟรีสำหรับผู้ฝึกอบรมและนักศึกษา จัดให้มี “การฝึกอบรมครูฝึก” และสนับสนุน K Labs ด้วยห้องปฏิบัติการการฝึกอบรมและทีมสนับสนุนด้านเทคนิค

K Labs มีส่วนร่วมในการฝึกอบรมครูและอาจารย์ของวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งเป็นพันธมิตรของ Huawei ICT Academy ในยุโรป คุณคิดอย่างไรกับโครงการ Huawei ICT Academy และทำไมโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยจึงควรให้ความสนใจในโครงการนี้

วิศวกรที่ต้องการเผชิญกับความท้าทายใหม่ของ ICT ควรศึกษาตลาดงานด้วยความรู้ด้านเทคโนโลยีที่เหมาะสม มหาวิทยาลัยทำได้ดีในการจัดให้มีทักษะดังกล่าว แต่ในปัจจุบัน การทำเช่นนี้ยังไม่เพียงพอ โครงการ Huawei ICT Academy ได้รวมทักษะของนักเรียนเข้ากับเทคโนโลยีผู้จำหน่ายที่เกิดขึ้นใหม่ นี่เป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัย ในประเทศจีน 40% ของนักเรียนที่ได้รับการรับรองสามารถหางานที่มีเงินเดือนที่ดีกว่าได้ และในขณะเดียวกัน สำหรับมหาวิทยาลัยแล้ว Huawei ICT Academy ยังเป็นโอกาสในการนำเสนอหลักสูตรเฉพาะสำหรับนักศึกษาเพื่อให้นักศึกษาพร้อมสำหรับการจ้างงาน

พันธมิตรด้านการเรียนรู้ที่ได้รับอนุญาตระหว่างหัวเว่ยและ K Labs เริ่มต้นเมื่อ 12 ปีก่อน ความร่วมมือได้พัฒนาไปอย่างไรในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและคุณคาดหวังว่าจะมีความหมายอย่างไรต่อ K Labs ในอนาคต

ใช่ เราทำงานกับหัวเว่ยมาตั้งแต่ปี 2006 ในเวลานั้นมีเพียงไม่กี่คนที่รู้จักหัวเว่ย และ K Labs ก็เป็นบริษัทขนาดเล็ก แต่หัวเว่ยและ K Labs ได้ให้ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และเราเริ่มต้นความร่วมมือในการฝึกอบรมกับ Carrier Business Group และต่อมากับ Enterprise Business Group ซึ่งเติบโตมาด้วยกันและจัดตั้งความเป็นพันธมิตรที่แท้จริง

ในปัจจุบัน K Labs คือ HALP ที่สำคัญที่สุดในยุโรปตะวันตก ซึ่งให้การฝึกอบรมเกี่ยวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์การฝึกอบรมของหัวเว่ยทั้งหมด รวมถึงการกำหนดเส้นทางและการสลับ, การจัดเก็บข้อมูล, คลาวด์, ศูนย์ข้อมูล, การส่งผ่าน WLAN, การเข้าถึง, LTE และ 5G และการเตรียมความพร้อมให้วิศวกร ICT ผ่านการสอบใบรับรอง HCIA, HCIP และ HCIE

นับตั้งแต่เราทำงานเป็น HALP เราได้ฝึกอบรมนักศึกษามากกว่า 3,200 คนในยุโรปตะวันตก

ปัจจุบันแบรนด์หัวเว่ยเป็นที่รู้จักดีทั้งในด้านธุรกิจลูกค้าบุคคลสำหรับสมาร์ทโฟนและในตลาดองค์กร ปัจจุบันวิศวกรและนักศึกษาจำนวนมากจากมหาวิทยาลัยสามารถใช้โซลูชันหัวเว่ยที่คุ้มค่าและเชื่อถือได้ในอุตสาหกรรม ICT

นั่นคือสิ่งที่หัวเว่ยและ K Labs ทำในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา และเป็นสิ่งที่เราจะทำในอนาคตระยะยาว

ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมจากพันธมิตรการฝึกอบรมที่ CeBIT

จุดแข็งหลักของ K Labs คืออะไร

ฉันคิดว่าจุดแข็งหลักของบริษัทของเราคือมีผู้ฝึกสอน 18 คน ทั้งหมดนี้เป็นพนักงาน K Labs และได้รับการรับรองระดับ HCIP โดยเจ็ดคนมี HCIE ด้วย

ผู้สอนมีทักษะที่ดีมากในการใช้เทคโนโลยีของหัวเว่ย มีประสบการณ์ด้านเทคนิคกับห้องปฏิบัติการการฝึกอบรม และความสามารถในการสื่อสารที่โดดเด่น

เนื่องจากความร่วมมือระหว่างหัวเว่ยกับ K Labs กำลังขยายตัวไปในหลายประเทศ ความสามารถทางภาษาหลายภาษาจึงจำเป็น นั่นคือเหตุผลที่ผู้ฝึกสอนของ K Labs สามารถนำเสนอหลักสูตรในห้าภาษาที่แตกต่างกัน

หัวเว่ยและ K Labs มีความสามารถในการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่เหมือนกัน เป็นรายแรกในการพัฒนาโซลูชันด้านเทคโนโลยี และเป็นรายที่สองในการถ่ายทอดความรู้ที่เกี่ยวข้องให้กับพันธมิตรและลูกค้า

เมื่อร่วมมือกัน เราต้องการทำความเข้าใจให้ดีขึ้นว่าตลาดการฝึกอบรมจะพัฒนาไปอย่างไรในอนาคต สิ่งที่ลูกค้าต้องการ และแบ่งปันประสบการณ์ของเรากับบริษัทจากภูมิภาคอื่น

ฉันมั่นใจว่าเมื่อร่วมมือกันแล้ว หัวเว่ยและ K Labs จะประสบความสำเร็จในความท้าทายด้านเทคโนโลยีในอนาคต เช่น 5G, Big Data, IoT และ AI